บทความ, สาระน่ารู้

ความรู้เพื่อการขับขี่ปลอดภัย ยางรถยนต์มีกี่ประเภท ใช้งานอย่างไร

ยางรถยนต์คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของรถยนต์ มีบทบาทช่วยรักษาความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าผู้ขับขี่ที่อยู่หลังพวงมาลัยจะมีสไตล์การขับแบบไหน ยางก็จะทำหน้าที่รักษาสมดุลและป้องกันการเสียหลัก ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ยางจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลย ซึ่งในความเป็นจริงเชื่อว่าผู้ขับขี่ก็ทราบดีอยู่แล้วว่า ยางสามารถใช้ข้ามประเภทกันได้ เพราะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของผู้ขับขี่เอง แต่ลองมาศึกษาประเภทของยางที่แท้จริงดูสักนิด ว่าการแบ่งประเภทของยางตามตำรา กับประเภทของยางที่มีในร้านขายยาง แบ่งประเภทอย่างไร รู้ไว้ไม่เสียหายแน่นอน คุยกับช่างคนไหนก็เข้าใจ เรามาเริ่มต้นกันเลย

ประเภทของยางรถยนต์ตามตำรา มีกี่ประเภท ใช้งานแบบไหน

เหตุผลที่ต้องแบ่งประเภทยางรถยนต์ออกเป็นตามตำรา กับตามร้านขายยาง ก็เพราะรถยนต์มีการพัฒนาสมรรถนะและใส่นวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาตลอด ยางก็เช่นเดียวกัน ต้องทำหน้าที่รองรับน้ำหนักของตัวรถ ยิ่งรถสมรรถนะสูงยิ่งมีน้ำหนักมาก ส่วนรถรุ่นใหม่ ๆ ที่เน้นขับขี่ในเมืองจะมีน้ำหนักเบา เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยางจึงมีการเรียกขานตามความถนัดที่แตกต่างกัน จึงเป็นที่มาว่าเราควรรู้ประเภทของยางทั้งตามตำรา และตามที่ช่างเรียก โดยเราจะเริ่มที่ประเภทยางรถยนต์ตามตำราก่อน แบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังต่อไปนี้

1. Highway Terrain (HT) สมรรถนะวิ่งบนท้องถนน 90% วิ่งบนผิวขรุขระ 10%

จากสมรรถนะก็บ่งบอกแล้วว่า เป็นยางที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง เพราะมีการตอบสนองต่อพื้นผิวบนท้องถนนได้ดี ตัวยางรถยนต์จะมีดอกยางเล็ก ลายดอกค่อนข้างละเอียด ร่องยางเล็ก คุณสมบัติพิเศษคือน้ำหนักเบา เกาะถนน และสามารถรีดน้ำได้ดี โครงสร้างของยางจะมอบความรู้สึกนุ่มและเงียบในขณะขับขี่ เหมาะสำหรับรถเก๋ง และรถกระบะที่ไม่ได้เน้นการบรรทุกหนัก ๆ วิ่งบนผิวถนนทางเรียบได้สบาย ส่วนทางขรุขระได้เล็กน้อย แต่ถ้าเป็นสายลุย ๆ ยางประเภทนี้ไม่ค่อยมีความทนทาน

ถามว่ายางประเภทนี้สามารถใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ได้ปลอดภัยหรือไม่ ต้องตอบว่าปลอดภัยบนผิวถนนหลวงที่เรียบ ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมันด้วยโครงสร้างที่เบา ทำให้ใช้กำลังเครื่องสำหรับการหมุนล้อน้อย การใช้เชื้อเพลิงจึงน้อยตามไปด้วย จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้

2. All Terrain (AT) สมรรถนะวิ่งบนท้องถนน 60% วิ่งบนผิวขรุขระ 40%

ยางรถยนต์ประเภทนี้ จะมีลักษณะของดอกยางทั้งใหญ่และหนา ร่องยางห่างกันพอประมาณ เพื่อให้ดอกยางได้สัมผัสกับพื้นถนนมากที่สุด และด้วยดอกยางที่ใหญ่จึงสามารถช่วยตะกุยดินได้ดี เหมาะสำหรับรถกระบะทั้งแบบ 4×4 และ 4×2 สามารถใช้วิ่งบนถนนหลวงได้สบาย ส่วนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ เช่น ทางดิน ทางเลน มีหลุม และมีบ่อ สามารถใช้งานได้ดีพอสมควร แต่สำหรับเส้นทางที่มีความทุรกันดารมาก ๆ อาจจะทำให้ยางเสื่อมสภาพได้เร็ว

และด้วยโครงสร้างยางรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ที่ใช้ชีวิตทำงานอยู่กับรถ ทั้งอยู่ในเมืองและต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ ยางชนิดนี้จึงมีคุณสมบัติเกาะถนนได้ดี แต่ก็มีเสียงดังพอสมควร

3. Mud Terrain (MT) สมรรถนะวิ่งบนท้องถนน 15% วิ่งบนผิวขรุขระ 85%

ยางรถยนต์เพื่อรถออฟโรด มีคุณสมบัติที่เหมาะกับพื้นที่ทุรกันดาร เช่น ทางในป่า, ทางโคลน, ทางหิน, ทางดิน, ทางขรุขระ และการปีนป่าย ด้วยลักษณะของยางที่ออกแบบให้มีดอกยางขนาดใหญ่ มีรองยางลึกและห่างกันมาก สามารถช่วยตะกุยดินและสลัดดินออกจากตัวยางได้ดี เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ลุยทางออฟโรด ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบทั่วไปบนถนนหลวง เนื่องโครงสร้างของยางมีน้ำหนักมาก จึงทำให้มีเสียงดัง อีกทั้งยังสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ด้านการขับขี่เมื่อต้องใช้ความเร็วสูง ต้องบอกว่า “ไม่ปลอดภัย” เนื่องจากยางจะไม่เกาะถนนเมื่อใช้ความเร็ว

ประเภทยางรถยนต์ที่ร้านขายยางนิยมเรียกมีอะไรบ้าง

เมื่อได้ทราบประเภทยางรถยนต์ตามตำราที่ใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว เรามาทำความรู้จักประเภทยางรถยนต์ที่นิยมเรียกกันอย่างแพร่หลายในร้านขายยางกันบ้าง ว่าตามร้านแบ่งประเภทยางอย่างไร

  • ยางประหยัดน้ำมัน

เชื่อว่าหลายคนต้องได้ยินบ่อยในยุคนี้ ยางรถยนต์ชนิดนี้นิยมใช้กับรถเก๋งขนาดเล็กและขนาดกลาง หรือ Eco Car ตัวยางมีราคาถูก น้ำหนักเบา และประหยัดเชื้อเพลิง เหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องขับรถบ่อย ออกตัวบ่อยแล้วก็หยุดบ่อย โดยยางประเภทนี้ได้รับการพัฒนาให้มีเทคนิคการปล่อยไหลในจังหวะที่พอดีเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ไม่เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่นิยมความเร็ว เข้าโค้งไม่เบรก เจอหลุมแล้วเหยียบคันเร่งใส่ เพราะตัวยางไม่ได้รับการออกแบบสมรรถนะมาเพื่อความเร็ว และรับแรงกระแทกหนัก ๆ

  • ยางทั่วไป

ยางรถยนต์ที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ดูแลรถตามระยะทาง เมื่อไปเปลี่ยนยางก็จะเรียกง่าย ๆ ว่า “ยางทั่วไป” แต่ถ้าจะเอาแบบความรู้จริง ๆ ก็ต้องบอกว่ายางทั่วไปนี้มีอยู่จริง เรียกว่า (General Use) เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อรถเก๋งที่มีราคาต่ำกว่า 1,500,000 บาท สามารถใช้งานได้ดีในเมือง หรือวิ่งออกต่างจังหวัดบนทางหลวงก็พอไปได้ คือใช้งานง่าย ค่อนข้างครอบคลุม แต่ก็ไม่ถึงกับดีเยี่ยม เป็นยางราคาประหยัดที่เรียกได้ว่าหลายบริษัทผลิตยางยักษ์ใหญ่นิยมผลิตออกมาหลายรุ่นพอสมควร

  • ยาง Comfort

ยางรถยนต์ประเภทนี้เอาใจสายรักความนุ่มนวล โดยดอกยางจะได้รับการออกแบบเพื่อไม่ให้มีเสียงดังขณะใช้งาน ส่วนของแก้มยางจะรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี เนื้อยางมีส่วนผสมที่ค่อนข้างมีความเหนียวเพื่อดูดซับแรงกระแทก ยางประเภทนี้จึงไม่ประหยัดเชื้อเพลิงเท่าไหร่ ไม่เหมาะกับการเข้าโค้งแรง ๆ เพราะความนุ่มของยางอาจทำให้การเข้าโค้งไม่คมเท่าที่ควร แต่เหมาะสำหรับเหตุการณ์ที่ต้องเบรกกระทันหัน หรือเบรกฉุกเฉิน สามารถเอาอยู่ได้อย่างมั่นใจ

  • ยาง Sport

ยางรถยนต์ที่ออกแบบมาให้มีสมรรถนะเพื่อการขับขี่โดยเฉพาะ ตัวยางไม่เน้นความนุ่นมนวล โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ ยึดเกาะถนนได้ดีเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็ว สามารถเบรกฉุกเฉินได้ดีเยี่ยม และสามารถรับแรงกระแทกอย่างการตกหลุมได้ดี เหมาะสำหรับผู้ขับขี่สไตล์ใช้ความเร็วสูง ดอกยางได้รับการออกแบบมาอย่างดีเมื่อใช้ความเร็วสูง ดอกไม่หลุด แก้มยางก็ยังคงรูปสวย

ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าผู้ขับขี่จะทราบดีว่ายางรถยนต์นั้นสามารถนำมาใช้ข้ามประเภทกันได้ เพราะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ขับขี่เอง แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปควรเลือกใช้ยางให้ถูกประเภทจะดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยเรื่องยืดอายุการใช้งาน และความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนด้วย

ใส่ความเห็น